ถ้าพบข้อผิดพลาดในเว็บไซด์ จะแนะนำและติชม หรือสอบถาม ติดต่อที่ WEBMASTER
 
VISITORS


     







Not logged in [Login ]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites  
[*] posted on 26/6/08 at 15:07 Reply With Quote

ประวัติการสร้าง "สมเด็จองค์ปฐม" วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี (ตอนที่ 2)


« l 1 l 2 l 3 l 4 l »


สนทนาที่สายลม

(เดือนกันยายน ๒๕๓๓)


ผู้ถาม : ได้ข่าวว่าหลวงพ่อจะหล่อสมเด็จองค์ปฐม และสร้างมณฑปใกล้พระ ๓๐ ศอกหรือครับ ?

หลวงพ่อ : ที่ตรงนั้นแปลก รถแทรคเตอร์เคยเข้าไปดินแห้งๆ ฟรีไปไม่ได้ พอเข้าไปถึงเครื่องติด ล้อหมุน แต่สายพานไม่เดิน และก็ยามปกติ เวลาพระบรมสารีริกธาตุเสด็จขึ้นจากที่นั้นบ่อย เห็นกันบ่อยครั้งมาก ก็เป็นว่าสร้างทับที่พระบรมสารีริกธาตุ

เมื่อตอนขากลับขึ้นไป หมอจรูญ เขาขึ้นไป มีหมอหลายคนก็คุยกัน ถามว่าจะสร้างวิหารแบบไหน ก็เลยคิดจะสร้างวิหารแบบโบสถ์ใช่ไหม ท่านเลยตัดสินใจบอก เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สร้างเหมือนหลังนี้ (มณฑปแก้วที่ข้างตึกรับแขก) เอาเหมือนหลังนี้ทุกอย่าง และหาที่ให้เสร็จในวัดนี้นะและนั่งมองที่ว่า จะสร้างที่ไหนจะเหมาะ ท่านก็ชี้ให้

ผู้ถาม : “ คงจะเป็นองค์แรกของโลก ”

หลวงพ่อ : “ ใช่ ๆ ๆ เออ... ไม่มีใครเขาพูดถึงกันนะ อย่างเก่งๆ ก็สมเด็จพุทธทีปังกร คือว่า สมเด็จพุทธทีปังกรนี่ พระพุทธเจ้าเราปรารถนาพุทธิภูมิเป็นครั้งแรก แต่ว่า องค์ปฐมไกลกว่านั้นแยะ พระพุทธเจ้านี่มีหลายแสนองค์นะ ไม่ใช่มีองค์เดียว องค์ปฐมนี่ ลำบากมาก

ถามท่านว่าบำเพ็ญบารมีมาเท่าไหร่ บอกเขาบำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขย ฉัน ๔๐ อสงไขยกว่า เพราะไม่มีตัวอย่างก็ถามท่านว่าทำไมจึงคิดว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า ท่านบอกไม่รู้ มันมีชาติหนึ่งคิดว่า คนเกิดมาแล้วมันมีทุกข์ ทำไงจึงหมดทุกข์ ทำไปมันก็ทำผิดบ้าง ถูกบ้าง ใช่ไหม... ใหม่ๆ ต่อไปก็เข้าเขตถูก”

ผู้ถาม : “ หลวงพ่อเคยมีความเกี่ยวพันกับพระองค์ท่านบ้าง ไหมครับ”

หลวงพ่อ : “ องค์ปฐมนี่ท่านเคยบอกว่า ฉันเคยเป็นลูกท่านเคยเป็นลูกในสมัยที่ท่านยังไม่เป็นพระพุทธเจ้านะ ในกาลก่อนๆ นะ แล้วต่อมาในสมัยที่ท่านเป็นพระพุทธเจ้า ฉันก็ปรารถนา ๑๖ อสงไขย อยากจะให้เก่งเหมือนพ่อ...” (หัวเราะ)

(หลังจากสอนพระกรรมฐาน และลูกหลาน สวดอิติปิโสถวาย ๓ จบแล้ว ในขณะหลวงพ่อฟังสวด หลวงพ่อพนมมือนั่งนิ่งเป็นสมาธิสวดจบแล้วท่านมีเรื่องเล่าให้ฟังอีกว่า)

สมเด็จองค์ปฐมท่านมาบอกว่า “ เออ... ถ้าหล่อรูปฉันน่ะ เอาแก้วอย่างดีติดที่นิ้วก้อยสักแก้วได้ไหม.. นิ้วก้อยซ้าย? เลยถามท่านว่า ถ้าบังเอิญเขาให้มากกว่านั้นล่ะ “ก็ติดที่แท่นก็แล้วกัน”

แก้วอย่างดีมันก็เพชร เอาแก้วอย่างดี ท่านบอกอย่างนั้น ถามว่าขโมยเขาไม่ลักหรือ “แกทำให้ดีลักไม่ได้ ท้าวมหาราช มีมาก บีบคอแน่” ถ้ามากจริงๆ ท่านบอกให้ติดที่ผ้าอะไร... ผ้าทิพย์

ก็เป็นอันว่าท่านบอกว่า ถ้าบอกเขาว่าหนึ่ง มันจะไม่เป็นหนึ่ง เพราะองค์ปฐม ท่านเลยบอกเอางั้นก็แล้วกันนะ แก้วน่ะไม่ต้องดีนัก ราคาแพงมากเกินไป เวลาขโมยลักไปจะเสียดาย เอาแก้วอย่างเลว ตูดขวดก็ได้... (หัวเราะ)



บทผนวก


หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า สมเด็จองค์ปฐมทรงพระนามว่า“ สมเด็จพระพุทธสิกขี ” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้ว อาจจะมีชื่อซ้ำกันก็ได้ โ ดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง ๕ พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น “ พระพุทธสิกขีที่ ๑ ” พระองค์จึงทรงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่าทรงเป็น “ สมเด็จองค์ปฐมบรมครู ” อย่างแท้จริง

ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์เสด็จมาเล่าให้หลวงพ่อฟัง ที่บ้านสายลมว่า สมัยที่พระองค์ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้นคนมีอายุขัยประมาณ ๘ หมื่นปี พระองค์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปี

หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก ๒ หมื่นปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก พระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ อีกประมาณ ๒ หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน หลังจากทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง ๔๐ อสงไขยกัป ในการ บำเพ็ญพระบารมีเพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง ดังนี้



อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม

หลวงพ่อ : “ช่างมาถามเกี่ยวกับลักษณะองค์ปฐม อาตมาบอกสร้างแบบพระพุทธรูปธรรมดา แต่ต้องอ้วนหน่อยนะ คือ มีเนื้อมากหน่อย ไม่ใช่อ้วนพุงพลุ้ยนะ และก็เวลาลงไปสอนกรรมฐาน เมื่อเสร็จแล้วเขาก็คุยกันเขาก็ถามปัญหา ถามไปถามมา เขาถามถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมว่า ถ้าจะสร้างจะมีอานิสงส์ยังไง ลุงสองลุง นายบัญชี กับ ลุงพุฒิ ท่านมายืนอยู่นานแล้ว ท่านไม่มีโอกาสคุย เพราะอาตมาขึ้นไปคุยกับพระซะ

ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอก นี่...บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา) “บัญชีสีทอง” เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ฉันอยากได้บัญชีเอามาขาย ท่านบอก ถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ ต้องเป็นคนมีบุญมาก...หรือไง?

แต่ก็ไม่ได้หมายความต้องเงินมากนะ คือว่าโดยมากเราจะนึกไม่ถึงกันใช่ไหม เรานึกกันถึงพระกกุสันโธ พระโกนาคม พระพุทธกัสสป แต่ยังไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม ส่วนใหญ่ไปนึกถึงพระศรีอาริย์ ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้าใช่ไหม นี่องค์นี้เป็นองค์แรกก็คุยกันแล้ว

ท่านบอกว่า การสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่า เป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด ใช่ไหม และการทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม ทีนี้อย่างคนมีเงินน้อยๆ ใช่ไหม ก็มีสตางค์ไม่มาก เอาสตางค์ ๙ สตางค์ ๑๐สตางค์ไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด

คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไปนะ ที่เขามีน้อยๆ บาทสองบาท ๑๐ สตางค์ ๒๐ สตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่นอย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด ก็ถามว่า บัญชีสีทองหมายถึงอะไร ท่านบอก มันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด

ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่อานิสงส์จะ
เหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันหรือว่าจะแตกต่างกันอย่างไรครับ ถ้าเป็นทองคำเหมือนกัน?

หลวงพ่อ : ก็มีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้า “บัญชีสีทอง”ไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น”

ผู้ถาม: หมายถึง เป็นเจ้าภาพหล่อองค์ปฐมนี่หรือครับ?”

หลวงพ่อ : “ใช่ๆ ๆ จะทองคำก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม… เหมือนกัน ลงบัญชีเล่มเดียวกัน”



งานพิธีเททองหล่อรูป "สมเด็จองค์ปฐม"
เมื่อวันที่ ๑๔ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๕




วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๘.๐๐ น หลวงพ่อทำพิธีบวงสรวง ที่ปะรำพิธีเททองหน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร

วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๕ เวลา ๐๘.๐๐ น หลวงพ่อทำพิธีบวงสรวงที่ปะรำพิธีเททองอีกครั้งหนึ่ง เสร็จแล้วเดินทางไปที่ศาลา ๒ ไร่ เพื่อทำบุญประจำปีของท่าน ซึ่งมีพระเถรานุเถระและญาติโยมพุทธบริษัทเดินทางมากันมากมาย

หลังจากเสร็จงานที่นั่นแล้วหลวงพ่อจึงเดินทางไปที่วิหาร ๑๐๐ เมตร ซึ่งมีญาติโยมไปนั่งรออยู่ในเต๊นท์หน้าวิหาร ก่อนจะถึงเวลาเททอง มีญาติโยมพุทธบริษัทที่คอยทำบุญและถวายทองกับหลวงพ่อเป็นจำนวนมาก จนใกล้เวลาบ่าย ๒ โมง ก็ดูทีท่าว่าจะยังถวายไม่เสร็จ ดร.ปริญญา จึงประกาศให้วิ่งเร็วๆ เข้ากลายเป็นวิ่งทำบุญไปสนุกไปอีกแบบ




เวลา ๑๔.๐๐น เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นประธานพิธีเททอง โดยท่านนั่งอธิษฐานถือ สายสิญจน์ภายในระเบียงวิหาร ๑๐๐ เมตร ส่วนหลวงพ่อลงไปที่ปะรำพิธีเททองเอง ทองคำที่หลวงพ่อเทลงในเบ้าหล่อสมเด็จองค์ปฐม รวมทั้งสิ้น ๗๘ กิโลกรัม นับว่ามากที่สุดตั้งแต่เททองมา และเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านบอกว่า “ พระองค์นี้บูชาให้ดี จะมีลาภมาก ”





ในขณะที่หลวงพ่อเททองยังไม่ทันเสร็จ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ขอกลับก่อน เมื่อหลวงพ่อเททองเสร็จแล้ว จึงขึ้นมาที่วิหาร ๑๐๐ เมตรอีกครั้งหนึ่ง เพราะยังมีคนทำบุญกันอีก จนถึงเวลาบ่าย ๓ โมง จึงขึ้นพัก



งานพิธีอัญเชิญพระพุทธรูป "สมเด็จองค์ปฐม"
ขึ้นประดิษฐานบนแท่นภายในวิหาร


วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๓๕ เป็นวันวิสาขบูชา หลวงพ่อได้กระทำพิธี ๓ อย่างในวันเดียวกันคือ

ตอนเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น หลวงพ่อทำพิธีบวงสรวงที่วิหารสมเด็จองค์ปฐม หลังจากนั้นท่านได้เดินขึ้นไปบนวิหารเพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ขึ้นประดิษฐานบนแท่นภายในวิหาร เมื่อเห็นว่าช่างได้ยกพระขึ้นบนแท่นเรียบร ้อยแล้ว ท่านจึงเดินลงไปจากวิหารท่ามกลางผู้ที่มาร่วมพิธีมากมาย









เวลา ๐๘.๐๐ น หลวงพ่อแสดงพระธรรมเทศนาที่ศาลาพระพินิจอักษร

เวลา ๐๙.๐๐ น หลวงพ่อเดินทางมาที่ศาลา ๑๒ ไร่ และทำพิธีบวงสรวงเนื่องในงานพิธีสะเดาะเคราะห์

เวลา ๑๘.๐๐ น หลวงพ่อทำพิธีบวงสรวงที่วิหาร ๑๐๐เมตร เนื่องในพิธีพุทธาภิเษกพระคำข้าว มีดหมอชาตรีและวัตถุมงคลอื่นๆ



"ภาพอัศจรรย์" ถ่ายเมื่องานธุดงค์ ปี ๒๕๓๕ ก่อนที่จะปิดทองและประดับเพชร


« l 1 l 2 l 3 l 4 l »



kittinaja
Super Administrator
*********
Posts: 192
Registered: 10/2/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member

Go To Top
 

"เว็บตามรอยพระพุทธบาท" ได้รับลิขสิทธิ์จาก พระอาจาย์ชัยวัฒน์ อชิโต เพื่อเผยแพร่รูปภาพและข้อมูล
จาก "หนังสือตามรอยพระพุทธบาท" จึงขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๓๗ และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
ห้ามคัดลอกข้อมูล, ภาพ, เสียง ออกไปเผยแพร่ หรือนำไปโพสในเว็บใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน

เว็บไซต์นี้แสดงผลได้ดีกับโปรแกรม Internet Explorer, Window Media V.9, Flash Player ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 768 pixels ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps. ขึ้นไป

ถ้าพบข้อผิดพลาดใดๆ หากจะแนะนำ หรือติชม และสอบถาม ติดต่อ "ทีมงานเว็บตามรอยพระพุทธบาท"
เริ่มเปิดเว็บไซด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Copyright @ 2008 tamroiphrabuddhabat.com All rights reserved