ถ้าพบข้อผิดพลาดในเว็บไซด์ จะแนะนำและติชม หรือสอบถาม ติดต่อที่ WEBMASTER
 
VISITORS


     







Not logged in [Login ]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites  
[*] posted on 26/4/13 at 03:26 Reply With Quote

ตำนานรอยพระพุทธบาทหริภุญชัย ห้วยทรายขาว


ตำนานรอยพระพุทธบาทหริภุญชัย ห้วยทรายขาว
โดย ศานติญาณ


นะโม ตัสสะ เอวัมเม สุตัง เอกํสมยํ ธรรมาโน ชนปทฺ จาริกํ จรมาโก สาธุโว...

"...ดูรา สัปปุรุษทั้งหลาย ปางเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตน อันประกอบด้วยมหากรุณาเป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลกทั้งมวล ตนเป็นครูแก่คนและเทวดาทั้งหลาย

เมื่อพระพุทธเจ้า ยังทรมานโปรดบรรดาสัตว์ทั้งหลาย พระตถาคตเจ้าได้กระทำตามพุทธประเพณีอันโบราณ พระพุทธเจ้าอันล่วงแล้วมาแต่ก่อนได้กระทำมาชุตน

เอกํสมยํ ยังมีอีกหลายสมัยกาล คาบหนึ่งพระพุทธเจ้า ตนมีโสภาคยะอันงาม ประกอบด้วยฉัพพรรณรังสี รัศมีหกสิ่ง วรรณะเจ็ดประการ ประทับสำราญในป่าเชตะวันอาราม อันมีในเมืองพาราณสี

เอกทิวสํ ยังมีในวันหนึ่งนั้น พระพุทธเจ้าแห่งเราได้ส่งมรรคญาณอันประเสริฐเล็งเห็นอนาคตภายหน้า ศาสนาแห่งกูพระตถาคตจักได้รุ่งเรืองในเมืองสุวรรณภูมิ เมื่อพระตถาคตได้รู้แล้ว

ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงได้เสด็จฯ มาพร้อมอรหันตาเจ้าทั้งหลาย มีพระสารีบุตรเถระ พระอานนท์เถระ พระโสณะเถระ และพระยาโศกราชาเมืองกุสินาราเป็นอุบาสก ผู้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า

ได้เทศนาธรรมโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลายนั้น ได้ฐาปนาไว้ยังเกศาธาตุรอยพระพุทธบาทไว้ตามบ้านน้อยใหญ่ทั้งหลายนั้น ขึ้นมาตามลำดับราชธานี ตามต้นน้ำและแม่น้ำ

ตโต ปรํ ภควา เมื่อนั้นพระพุทธเจ้าพร้อมกับอรหันตาเจ้าทั้งมวล ได้มาถึงริมฝั่งแม่น้ำแม่ระมิงค์ ฝ่ายตะวันออกเมืองหริภุญชัยได้เข้าบิณฑบาตในบ้านลัวะแห่งนั้น

ชาวลัวะทั้งหลายก็มีจิตใจปิติยินดีมากนัก จึงได้ตกแต่งขาทะนียะโภชนียะ ข้าวบิณฑบาตไปถวายแก่พระพุทธเจ้าและอรหันตาเจ้าแล้ว

ดังนั้น พระพุทธเจ้าได้ขึ้นไปสู่ก้อนหินลูกหนึ่ง อันมีฐานดังหลังเต่า มีดอย ๕ ลูกแวดล้อมทุกด้าน เป็นรมณียสถานอันวิเศษ ดอยทั้ง ๕ ลูกนั้น มีเทวบุตร ๕ ตน อันมีฤทธิ์ ยศะบริวารมากมาย

ประการหนึ่งนั้นมีมหายักษ์ราชาตนหนึ่ง เป็นใหญ่กว่าเทวดาในสถานเขตแดนที่นั้น เมื่อพระพุทธเจ้าลงไปชำระตน (สรงน้ำ) ในห้วยอันมีที่ใกล้นั้น แล้วจึงได้ฉันข้าวบิณฑบาตบนก้อนหินนั้น

พระพุทธเจ้าได้เทศนาธรรมแก่ชาวลัวะที่ได้ตามมาด้วย ทานกถา สีลกถา สัคคกถา ภาวนากถา ขณะนั้นพระยาชมพูนาคราชได้เอาพัดวารชิณีมาพัดวีถวายพระพุทธเจ้า มหายักษ์ตนนั้นได้เอาฉัตรขาวมาถวายกั้นบังแดดแก่พระพุทธเจ้า

ครั้นพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเทศนาธรรมแล้วมหายักษ์ราชา ได้อภิวาทกราบไหว้พระพุทธเจ้าว่า ข้าแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ข้าขอพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐจงเมตตาไว้ยังรอยพระบาทให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อแทนตนพระพุทธเจ้าเถิด

เมื่อนั้นพระพุทธเจ้าได้ยินคำอันมหายักษ์ราชากล่าวนั้น พระองค์ได้มีพุทธเมตตาลุกขึ้นจากที่นั้น แล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทรงอธิษฐานย่ำไว้ยังรอยพระบาทบนลูกหินลูกนั้น มหาปฐวีก็ไหวหวั่นไปมาเป็นที่โกลาหลยิ่งนัก เพื่อเป็นนิมิตว่าศาสนา แห่งพระพุทธเจ้าจักตั้งมั่นรุ่งเรืองในเมืองหริภุญชัยนั้น

พระพุทธเจ้าได้ตรัสกับมหายักษ์ราชานั้นว่า "ดูราพระยายักษ์ กูพระตถาคต ได้ฐาปนารอยพระบาทแห่งกูพระตถาคตนี้ ไว้ให้เป็นที่ไหว้สักการบูชาแก่คน เทวบุตร อินทร์ พรหม กุมภัณฑ์ คัณธัพพนาคา ยักษ์ ปรไมไอศวรทั้งหลาย ก็ด้วยคำขอแห่งมหายักษ์นี้แล

ครั้นว่าบุคคลใดมาสักการบูชาด้วยอามิสบูชา จำศีลกินทาน ดังนั้นบุคคลนั้นก็จักพ้นจากทางวินาศฉิบหายทั้งชั่วนี้และชั่วหน้า จักประกอบไปด้วยความวุฒิเจริญ มีปัญญามากมาย พลันรอดเนรพาน(นิพพาน) บ่อย่าชาแล

ดูรามหายักษ์ สูท่านได้กระทำบุญสมภารมาแต่ก่อน เพื่อว่าจักปราถนา โพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าตนหนึ่ง ภายหน้าเมื่อกู ตถาคตได้นิพพานไปแล้วดังนั้น มหายักษ์จักได้ไปเกิดเป็นพระยาเมืองหริภุญชัย จักได้ยกยอศาสนาและรอยพระพุทธบาทกูพระตถาคต ให้ลือชาปรากฎ

เมื่อใดเสียชีวิต จากเป็นพระยาแล้วนั้น มหายักษ์จักได้จุติเป็นมหาเทวะอารักษ์ตนใหญ่รักษาพระธาตุ พระบาท และเมืองหริภุญชัย ตราบ ๕,๐๐๐ วัสสา ชาวเมืองจักเรียกชื่อว่า "มหาอารักษ์ยักษ์ร่มขาว"

ก็เมื่ออานิสงส์ได้เอาฉัตรกั้นบังให้พระพุทธเจ้าวันนั้น ภายหน้ามหายักษ์ตนนี้ จักได้ตรัสรู้ผญ๋าสัพพัญญู เป็นพระพุทธเจ้าตนหนึ่งในสารมัณฑกัปป์ ภายพู้นชาแล

เมื่อมหายักษ์ได้ฟังก็มีใจปิติอภิรมย์ ชมชื่นมากนัก ก็จึงได้นำสัมปัตติทิพย์ อันมีตำ(ทองคำ) อันงามบริสุทธิ์ และสัมปัตติทิพย์มาถวายรอยพระพุทธบาทเจ้า

บ่แต่เท่านั้น พญาชมพูนาคราชนำมายังแก้วปัทมราช ลูกประเสริฐ และแก้วรัตนะ ๗ ประการ เป็นบริวารมาถวาย บูชารอยพระพุทธบาท

เจ้าที่นั้นนำเอาสัมปัตติทิพย์ทั้งมวลฝังไว้ในถ้ำอันมีลุ่มพื้น (ข้างล่าง) รอยพระพุทธบาท เทวบุตร เทวดา คัณธัพพนาคา ยักษ์ทั้งหลาย ก็อภิวาทไหว้วันทาพระพุทธเจ้า อรหันตาเจ้าทั้งหลายหมู่นั้น ด้วยสาธุการปริยายต่างๆ นั้นแล

ต่อแต่นี้ไป ภายหน้าจักสำแดงยังการทั้งมวลให้แจ้ง อันว่ารอยพระบาทเจ้าแห่งนี้ พระพุทธเจ้าแห่งเราได้มาฉันข้าวบิณฑบาต อาบน้ำชำระองค์ ได้สถาปนารอยพระบาทเจ้าแห่งนี้ พระพุทธเจ้าแห่งเราเป็นอันดีแล้ว

พระพุทธเจ้าก็ขึ้นไปสู่ยอดดอย เล็งดูยังฐานะที่พระพุทธเจ้าจะไปนั้น รำพึงว่าแดนที่เราจะไปนั้น จักรุ่งเรืองตราบ ๕,๐๐๐ วัสสา ดังนั้น ถัดแต่นั้นพระพุทธเจ้าไปในหนตะวันตก สู่สถานที่นั้นพระพุทธเจ้าได้สถาปนาพระเกศาธาตุ ตรัสทำนายว่า

"ดูก่อนอานนท์ ฐานะที่นี่ ภายหน้าจักปรากฎนครใหญ่ ชื่อหริภุญชัยบุรี เหตุเราตถาคตได้มาฉันหมากสมอ ไว้เกศาธาตุที่นี้ชาแล"

เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปได้พันปีถ้วน สองพญายักษ์ได้เกิดเป็นพญาธรรมมิกราชในเมืองหริภุญชัย พร้อมกับอรหันตาเจ้าสองตน ได้นำธาตุกระดูกอกของพระพุทธเจ้า ๕ ดวง มาฝังไว้ในแผ่นหินบนยอดดอยที่พระพุทธเจ้ายืนอยู่ลึก ๗ วา

พระยาธรรมตนนั้น ก็ได้ถวายบูชาพระบาทพระธาตุด้วยอามิสบูชา วัตถุแก้ว แหวน เงินทอง เป็นอันยิ่ง แต่นั้นนานไปเกิดภัยอันร้ายแก่เมืองหริภุญชัย รอยพระพุทธบาทสถานที่นี้ได้ร้าง บ่มีผู้จักรู้ไปในที่สุด


ประวัติการสร้างวัด

วัดพระพุทธบาทหริภุญชัยห้วยทรายขาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขตหริภุญชัย ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน

โดยพระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (ครูบาอินทรา) เป็นผู้พื้นฟูบูรณะ ก่อตั้งเป็นวัดขึ้นมา จากพื้นที่รกร้างมาเป็นเวลาอันยาวนาน

ตามประวัติจารึกปรากฎที่ขอบปูนรอบรอยพระพุทธบาท ได้เลือนรางไปมากแล้ว แต่พอจับใจความได้ว่า มีการสร้างศาลาครอบรอยพระพุทธบาท เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๕๘

- จุลศักราช ๑๒๖๕ (พ.ศ. ๒๔๔๖) โดยครูบาใจยา วัดพญายาบ ได้มาบูรณะศาลาไม้ครอบรอยพระพุทธบาท ๑ หลัง ศาลาบาตร ๑ หลัง ศาลาที่พัก ๑ หลัง

- พ.ศ. ๒๔๙๐ ครูบาปัญโญ วัดศรีบัวบาน ได้มาบูรณะมณฑป ก่ออิฐ ถือปูน

- พ.ศ. ๒๕๒๘ พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (ครูบาอินทรา) เป็นประธาน พร้อมคณะศรัทธา ได้มาก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ โดยสร้างศาลาพัก ๑ หลัง กุฎิที่พักสงฆ์ ๒ หลัง โรงครัว แท็งค์น้ำ

- ต่อมา พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (ครูบาอินทรา) ได้มีบัญชาให้พระอาจารย์ประกอบบุญ สิริญาณโน เข้ามาบูรณะดูแล เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๒

(แต่เนื่องจากพระอาจารย์ประกอบบุญไม่ได้จำพรรษาที่วัดหรือไม่ได้ขึ้นมาวัดนาน เพราะติดภาระกิจสร้างวัดหลายแห่ง และกิจอีกหลายประการ วัดจึงถูกปล่อยให้รกร้างอีกครั้งหนึ่ง)

- วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๒ พระครูสิริวรธรรม เจ้าคณะตำบลศรีบัวบาน ได้มอบหมายให้พระอาจารย์ขันธ์ สิริจนฺโธ ทำการบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรแก่การสักการบูชาของพุทธศาสนิกชนและความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาต่อไปในภายหน้า

(ทางกำนันในพื้นที่ได้กราบเรียนให้พระอาจารย์ประกอบบุญทราบแล้ว ท่านได้อนุโมทนายินดีเป็นอย่างยิ่งจะได้มีพระสงฆ์อยู่ดูแลวัดเป็นประจำ)




webmaster
Super Administrator
*********
Posts: 2033
Registered: 8/1/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 15/11/13 at 08:54 Reply With Quote





webmaster
Super Administrator
*********
Posts: 2033
Registered: 8/1/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 10/9/19 at 20:25 Reply With Quote


.


webmaster
Super Administrator
*********
Posts: 2033
Registered: 8/1/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member

Go To Top
 

"เว็บตามรอยพระพุทธบาท" ได้รับลิขสิทธิ์จาก พระอาจาย์ชัยวัฒน์ อชิโต เพื่อเผยแพร่รูปภาพและข้อมูล
จาก "หนังสือตามรอยพระพุทธบาท" จึงขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๓๗ และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
ห้ามคัดลอกข้อมูล, ภาพ, เสียง ออกไปเผยแพร่ หรือนำไปโพสในเว็บใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน

เว็บไซต์นี้แสดงผลได้ดีกับโปรแกรม Internet Explorer, Window Media V.9, Flash Player ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 768 pixels ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps. ขึ้นไป

ถ้าพบข้อผิดพลาดใดๆ หากจะแนะนำ หรือติชม และสอบถาม ติดต่อ "ทีมงานเว็บตามรอยพระพุทธบาท"
เริ่มเปิดเว็บไซด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Copyright @ 2008 tamroiphrabuddhabat.com All rights reserved