มะเร็งมดลูก
นพ.พนิตย์ จิวะนันทประวัติ
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับหนึ่งในบ้านเรา แต่ก็เป็นที่น่ายินดีว่า ในทุกวันนี้
ทางการแพทย์ได้ทราบแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งของปากมดลูกก็ HPV ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง
ซึ่งในกลุ่มของ HPV มันก็มีญาติพี่น้องอยู่เป็นจำนวนมาก ทางแพทย์ตั้งชื่อมันเป็นตัวเลขซึ่งนับได้เป็นหลักร้อย และตัวที่มีชื่อว่า ๑๖ และ ๑๘
ดูเหมือนจะมีความดุร้ายมากกว่าตัวอื่นๆ เพราะมันเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งของปากมดลูก
และในปัจจุบัน ทางการแพทย์ก็สามารถผลิตวัคซีนออกมาใช้ฉีดคุณผู้หญิงที่อยู่ในวัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็เท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นไม่ให้เชื้อ HPV ชนิด ๑๖ , ๑๘ สามารถเข้าสิงอยูในร่างกายของผู้หญิงที่มีภูมิต้านทานได้
เท่ากับเป็นการป้องกันการติดเชื้อที่เชื่อว่าน่าจะดีที่สุดในปัจจุบัน
นั่นเป็นเรื่องของมะเร็งปากมดลูก ซึ่งทางการแพทย์สามารถหาวิธีป้องกันที่เชื่อว่าได้ผลสูงได้แล้ว แต่ยังมีมะเร็งของผู้หญิงอีกหลายตัว
ซึ่งก็พบได้บ่อยอยู่เหมือนกัน เช่น มะเร็งของรังไข่ ซึ่งทางการแพทย์เรียกมันว่า ภัยเงียบ
คือมันเกิดขึ้นมาโดยที่คุณๆ ไม่มีโอกาสรู้ตัว เพราะไม่มีอาการแสดงนอกจากเสียว่าต้องไปรับการตรวจและถ้ารอจนมีอาการแสดงแล้วนั้น
นั่นเท่ากับว่าเป็นโรคมากแล้ว อาจจะเข้าสู่ระยะท้ายๆซึ่งรักษาไม่หายแล้วอะไรทำนองนั่น
ทุกวันนี้ ยังไม่มีวัคซีนสำหรับมะเร็งของรังไข่ ฉะนั้นการตรวจให้พบได้ตั้งแต่เริ่มแรกจึงมีความจำเป็น
และดูเหมือนว่าการใช้อัลตราซาวน์ในการตรวจหาเนื้องอกของรังไข่ จะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ผมแนะนำให้ทำอัลตราซาวน์ดูรังไข่ทุกๆ ปี ปีละครั้งๆ
ซึ่งก็พอจะเฝ้าดูภัยเงียบได้ไม่ปล่อยให้มันระเบิดออกมา
เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีคุณผู้ที่รู้จักกัน โทรศัพท์มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องของมะเร็งมดลูกที่เกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านและทราบว่าเป็นมากแล้ว
ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของโรคมะเร็งมดลูกที่เกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านและทราบว่าเป็นมากแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของโรคมะเร็งนะครับ
ว่าถ้าหากว่าพบช้าไป โรคก็จะลุกลามไปเรื่อยๆจนในที่สุดร่างกายสู้ไม่ไหว ก็ต้องตายจากไป ว่ากันถึงมะเร็งของมดลูกแล้ว
มีลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่าชวนให้ต้องระวังเหมือนกับมะเร็งของเต้านมก็เช่นกันแพทย์จะแนะนำด้วยการเฝ้าระวังตนเอง
โดยการคลำเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้งทุกเดือน
และเมื่อพบสิ่งผิดปรกติจากการคลำด้วยตนเอง จึงไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่นอนต่อไป หญิงอ้วนลงพุง น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน จะมีความสัมพันธ์
กับมะเร็งของมดลูกอย่างแน่นอน และพบได้มากขึ้นในหญิงวัยทอง นั่นก็เป็นมาตรการการเฝ้าระวังมะเร็งเต้านม ส่วนมะเร็งมดลูกก็มีมาตรการเฝ้าระวังอยู่เหมือนกัน
ประการแรก ก็คือ หากขนาดของเอวของคุณใหญ่ขึ้นซึ่งทราบได้ด้วยการวัดครับ ผมมีแต่มาตรฐานของฝรั่งอังกฤษซึ่งเขาบอกไว้ว่า
ถ้าหากวัดรอบเอวได้เท่ากับ ๓๔ นิ้ว หรือมากกว่า เขาเปรียบเทียบกับคนเอวบางร่างน้อยอย่างกับนางแบบแล้วละก็ ผู้หญิงไว้เอวจะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งของมดลูก
หรือมะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูกได้สูงครับ เขาทำการศึกษาพบว่า คนที่เอวมากกว่า ๓๔ นิ้ว จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดของมะเร็งมดลูกในหญิงที่วัดรอบเอวได้ ๓๑ นิ้ว
ถึงหนึ่งเท่าตัว
ประการที่ ๒ ดูกันที่น้ำหนักตัว อ้วนมากขึ้น ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นว่างั้นเถอะ โดยมีการวัดกันที่น้ำหนักตัว พบว่าใครที่น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
นับตั้งแต่อายุ ๒๐ ปีเป็นต้น หากเพิ่มมากขึ้นกว่า ๔๔ ปอนด์ ก็แสดงว่ามีแนวโน้มต่อการเกิดโรคมะเร็งของมดลุกมากกว่าถึงเท่าตัวเลยทีเดียว
หากจะคำนวณ BMI (Body Mass Index) ก็ได้ครับง่ายๆ ดังนี้
BMI = น้ำหนักเป็นกิโลกรัม (kg)
ความสูงเป็นเมตร (m )
หญิงอ้วนที่มี BMI > ๓๐ ก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นประมาณเท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับหญิงที่มีหุ่นมาตรฐาน คือ BMI อยู่ระหว่าง ๑๙ ๒๕
จากการวิเคราะห์ข้อมูลในผู้หญิง ๒๒๓,๐๐๐ ราย จาก ๑๐ ประเทศในยุโรป มีข้อสรุปชัดเจนว่า หญิงอ้วนลงพุงน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน
จะมีความสัมพันธ์กับมะเร็งของมดลูกอย่างแน่นอน และพบได้มากขึ้นในหญิงวัยทอง แม้ว่าหญิงวัยทองจะไม่ได้รับประทานฮอร์โมนทดแทน
หรือมีประวัติรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดมาก่อนก็ตาม
ผู้หญิงสมัยนี้ตัวโตและอ้วนกว่าสมัยสงครามโลกที่ผ่านมา คงเป็นเพราะอาหารที่ดีขึ้น การดูแลสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะทางด้านโภชนาการ แต่ขาดการออกกำลังกาย
ซึ่งทำให้มีผลตามมาที่น่ากลัวต่อสุขภาพโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และไขมัน
และรวมทั้งโอกาสที่จะเกิดเป็นมะเร็งของมดลูกตามมาอีกอย่าง
การที่แพทย์มักจะบอกว่า ถ้าหากมีเลือดออกผิดปรกติทางช่องคลอด หรือมีรอบเดือนมามากเกินไป ควรจะได้รับการตรวจว่ามีสาเหตุมาจากมะเร็งมดลูกหรือไม่
นั่นหมายความว่าเป็นดรคแล้ว และมีอาการแสดงบ่งบอก คือมีเลือดออกที่ผิดปรกติ
หากเป็นเช่นนั้น การป้องกันโรคมิให้เกิดขึ้นเลย มิดีกว่าหรือครับ