ตามรอยพระพุทธบาท

นายกรัฐมนตรีฯ มอบคำขวัญ "วันเด็ก" ประจำปี 2559
praew - 9/1/09 at 14:40

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2559


โดย นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบให้เป็นของขวัญแก่เด็กไทยทุกคน ว่า

" เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต "




webmaster - 27/12/09 at 20:23

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2558


(ภาพ - /teen.mthai.com, ข่าว - ไทยรัฐ)


.......ช่วงค่ำวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้เผยแพร่คำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2558 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่มอบให้แก่เด็กและเยาวชนไทย โดยเป็นคำขวัญที่เขียนด้วยลายมือของ พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อความว่า

......“ความรู้คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”


webmaster - 8/1/10 at 09:37

แสตมป์วันเด็กปี 2556 ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์



“ไปรษณีย์ไทย” พาเด็กไทยมุ่งสู่อาเซียน ออกแสตมป์หนูน้อยสิบชาติอาเซียนต้อนรับวันเด็กปี 2556 สร้างสถิติใหม่แสตมป์ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์

........นางปริษา ปานะนนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เปิดเผยว่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ไปรษณีย์ไทยได้จัดทำแสตมป์ที่ระลึกเทศกาลวันเด็กแห่งชาติโดยใช้แนวคิดเกี่ยวกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ที่จะเกิดขึ้นในปี 58 ซึ่งสอดคล้องกับคำขวัญวันเด็กปี 56 ของนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ว่า "รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน"

นอกจากนี้ แสตมป์ชุดดังกล่าวยังสร้างสถิติใหม่เป็นสแตมป์ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยจัดสร้างมาในรอบ 130 ปี ด้วยความยาวถึง 124 มม. ลบสถิติเดิมคือแสตมป์เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เมื่อปี 40 ที่มีความยาว 116 มม. อย่างไรก็ตาม แสตมป์ที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่ตรวจสอบได้ขณะนี้ ได้แก่แสตมป์ร่วมสองประเทศ ชุด 45 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสิงคโปร์-อียิปต์ในปี 54 ซึ่งมีความยาวถึง 162 มม.

นางปริษากล่าวต่อไปว่า แสตมป์วันเด็กปี 56 มุ่งหมายจะสร้างความรู้เกี่ยวกับอาเซียนให้แก่เด็กไทย ในมุมมองด้านวัฒนธรรมการแต่งกาย โดยนำเสนอในรูปแบบตัวการ์ตูนเด็กชายหญิงสวมชุดแต่งกายประจำชาติของสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ พร้อมธงชาติเรียงลำดับตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม กำหนดวันแรกจำหน่ายในวันเด็กแห่งชาติ 12 มกราคม 2556 ในราคาดวงละ 5 บาท (เต็มแผ่น 5 ดวง) ซองวันแรกจำหน่าย 13 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายตลาดตราไปรษณียากร โทร 0-2831-3853, 0-2831-3856.



หนังสือวันเด็กแห่งชาติ “ต้นกล้าของความซื่อสัตย์”


........เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดพิมพ์หนังสือวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2556 เสร็จแล้ว โดยปีนี้ใช้ชื่อว่า "ต้นกล้าของความซื่อสัตย์" มีเนื้อหามุ่งเน้นส่งเสริมปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนไทยมีความซื่อสัตย์ และมีคุณธรรมอยู่ในจิตใจ

ที่สำคัญ สพฐ.ได้อัญเชิญพระบรมราชโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเพื่อเชิญพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ประจำปี 2528 ความว่า

"........คนทุกคนมีภาระต้องทำ แม้เป็นเด็กก็มีภาระอย่างเด็ก หมายความว่าจะต้องเรียนให้รู้วิชา ฝึกหัดทำการงานต่างๆ ให้เป็น อบรมขัดเกลาความประพฤติและความคิดจิตใจให้ประณีต ให้สุจริตแจ่มใส และเฉลียวฉลาดมีเหตุผล เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความรู้วามสามารถ และมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง"

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ยังได้อัญเชิญพระวรธัมโมวาท สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่ประทานในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2556 ความว่า

"........เด็กย่อมเป็นที่หวังของพ่อแม่ ครอบครัว และสังคม ว่าจะเป็นคนดีมีความเจริญก้าวหน้า และทำให้ครอบครัว สังคม และชาติบ้านเมือง เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป แต่การที่เด็กจะเป็นคนดีมีความเจริญก้าวหน้าได้ตามที่ทุกคนปรารถนาต้องการนั้น ผู้ใหญ่ในครอบครัว สังคม และชาติบ้านเมืองก็จะต้องทำดีเป็นคนดี และเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กได้เห็นเป็นแบบอย่าง ให้เด็กได้ทำตามเป็นบทเรียน ให้เด็กได้รู้และเข้าใจจากการกระทำจนเกิดเป็นนิสัย หรือความเคยชินประจำตัว

สิ่งดีๆ ดังกล่าวนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เพียงแค่ความปรารถนาต้องการเท่านั้น แต่ต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังทั้งฝ่ายให้และฝ่ายรับ ที่สำคัญต้องเป็นการกระทำบนพื้นฐานของปรารถนาดี หรือเมตตาอย่างแท้จริง เมื่อทำได้เช่นนี้เด็กก็จะไม่เกิดความรู้สึกว่าผู้ใหญ่ได้แต่สอน แต่ได้ทำและเมื่อทำได้เช่นี้เด็กก็คงยอมรับและยอมตาม ทำตัวให้เป็นคนดีได้สมปรารถนาของผู้ใหญ่ได้ทั้งประสบสิ่งที่เด็กเองปรารถนา เป็นความดีของชีวิตสำหรับตนตลอดไป"


นายชินภัทร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีคำขวัญของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มอบให้เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2556 ว่า

".......รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน"

ทั้งนี้เนื้อหาในหนังสือยังเน้นส่งเสริมให้เด็กและเยาชนมีความสนใจและรักการอ่าน โดยสอดแทรกสาระที่อ่านง่าย ภาพการ์ตูนสวยงาม เพื่อให้เด็กรู้สึกเพลินเพลินเมื่อได้อ่านหนังสือวันเด็ก

นอกจากนี้ภายในเล่มยังมีเรียงความของนักเรียนที่ชนะการประกวดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอีกด้วย สำหรับหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2556 จะแจกให้แก่เด็กและเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันเด็กในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ทำเนียบรัฐบาล สนามเสือป่า ในวันเสาร์ที่ 12 ม.ค.นี้




นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2557


นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557 พร้อมเปิดทำเนียบฯให้เด็กๆเข้ามาเที่ยวชมตามเดิม

.......นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบคำขวัญวันเด็ก เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557 ว่า 'กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง' พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะเปิดทำเนียบรัฐบาลให้เด็กๆ เข้ามาเที่ยวชมในวันเด็กเหมือนเช่นเดิม



นายกรัฐมนตรีมอบคำขวัญ "วันเด็ก ปี 2556"



(ขอบคุณข่าวจากช่อง 7 และภาพจาก news.mthai.com)

....... เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ เผยคำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2556 ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

"รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน"

พร้อมกันนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะจัดพิมพ์หนังสือวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2556 ซึ่งในปีนี้มีชื่อหนังสือว่า "ต้นกล้าของความซื่อสัตย์" เนื้อหาภายในเล่มจะอัญเชิญพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระวรธัมโมวาท สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก คำขวัญวันเด็กแห่งชาติปี 2556 สารจากนายกรัฐมนตรี สารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และบทความจากเด็กนักเรียนทั่วประเทศ

อาทิ บทความเรื่อง หนูรักในหลวง เทิดราชาราชินีศรีแผ่นดิน คุณธรรมเด็กดี อนาคตของฉัน อนาคตของชาติ พอดี...มีพอใช้..ใจมีสุข รักภาษาถิ่นบ้านเกิด เป็นต้น


webmaster - 10/1/15 at 03:44

ประวัติความเป็นมา "วันเด็กแห่งชาติ"

คำขวัญ "วันเด็ก" ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2498 - 2564


วันเด็กแห่งชาติ มีต้นกำเนิดมาจากการที่องค์การสหประชาชาติทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็กๆ โดยในปี พ.ศ. 2498 นายวี เอ็ม กุล ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิการเด็กระหว่างประเทศ ได้เป็นผู้เสนอต่อกรมประชาสงเคราะห์ ให้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญ และความต้องการของเด็ก รวมถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ

ทั้งนี้ การขานรับกับการจัดงานวันเด็กแห่งชาติได้เป็นไปอย่างกว้างขวาง ในปีเดียวกันนั้นเองทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศ จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติของตนขึ้น โดยได้มีการกำหนดว่าจะถือเอาวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ

สำหรับประเทศไทย ได้ตอบรับข้อเสนอของนายวี เอ็ม กุลกานี ซึ่งบอกผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่า ไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ รัฐบาลจึงได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กำหนดให้มีการฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

จุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

อย่างไรก็ตาม งานวันเด็กแห่งชาติครั้งแรกของประเทศไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 จากนั้นเป็นต้นมา ราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ โดยจัดต่อเนื่องกันมาจนถึงปี 2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้น ได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่ ด้วยเหตุผลว่า เดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทย เป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็กๆ ไม่สะดวกในการเดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้วันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้

ด้วยเหตุนี้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 ว่า ควรจะเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ที่มีความเหมาะสมและสะดวกมากกว่า ตามที่คณะกรรมการจัดงานวัดเด็กแห่งชาติเสนอมา ส่งผลให้ในปี 2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว งานวันเด็กแห่งชาติจึงเริ่มจัดขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 2508 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน



วัตถุประสงค์การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ


สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่รัฐบาลไทยกำหนดไว้ คือ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนและอยู่ในระเบียบวินัยอันดี และเพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า ทุกๆ ปี ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชทานพระบรมราโชวาท สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงโปรดประทานพระคติธรรม และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีจะมอบคำขวัญวันเด็ก แสดงให้เห็นว่าเด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดของชาติ เราจึงได้ยินคำพูดอยู่บ่อยๆ ว่า "เด็กคืออนาคตของชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ"



กิจกรรมวันเด็ก


กิจกรรมต่างๆ ที่ปฏิบัติในวันเด็กแห่งชาติ ล้วนมีจุดประสงค์ไปในทางเดียวกัน คือ เพื่อให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณค่าบทบาท และความสำคัญของตนเอง โดยการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น ในโรงเรียน หมู่บ้าน หรือหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกถิ่นจะมีขนมมากมาย มีคำเชื้อเชิญเพราะๆ มีคำอวยพรให้เด็กๆ เป็นวันที่เด็กๆ มีสิทธิพิเศษ ถนนทุกสาย เปิดพื้นที่ให้เด็กๆ หรือร่วมกันทำกิจกรรม ในแต่ละชุมชนเพื่อเด็กๆ จัดบรรยากาศเพื่อเด็กๆ เพลงเด็กๆ ของขวัญเพื่อเด็ก ๆ ฯลฯ



คำขวัญวันเด็ก


คำขวัญวันเด็ก เป็น คำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล ป.พิบูลสงครามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจสำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ (ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ) นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน



คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ จากนายกรัฐมนตรีในปีต่างๆ


ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็กจึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อๆมา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้

พ.ศ.2499 - จอมพล ป.พิบูลสงคราม - จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม

พ.ศ.2502 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า

พ.ศ.2503 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด

พ.ศ.2504 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย

พ.ศ.2505 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด

พ.ศ.2506 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด

พ.ศ.2507 - งดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ

พ.ศ.2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี

พ.ศ.2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี

พ.ศ.2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย

พ.ศ.2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง

พ.ศ.2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ

พ.ศ.2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส

พ.ศ.2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ

พ.ศ.2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ

พ.ศ.2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ.2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - สามัคคีคือพลัง

พ.ศ.2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี

พ.ศ.2519 - หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช - เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้

พ.ศ.2520 - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย

พ.ศ.2521 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ.2522 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กไทยคือหัวใจของชาติ

พ.ศ.2523 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ.2524 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม

พ.ศ.2525 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ.2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม

พ.ศ.2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา

พ.ศ.2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม

พ.ศ.2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ.2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ.2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ.2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ.2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ.2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา

พ.ศ.2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน - สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม

พ.ศ.2536 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ.2537 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ.2538 - นายชวน หลีกภัย - สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ.2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา - มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด

พ.ศ.2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ - รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด

พ.ศ.2541 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ.2542 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ.2543 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ.2544 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ.2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส

พ.ศ.2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี

พ.ศ.2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน

พ.ศ.2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด

พ.ศ.2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด

พ.ศ.2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

พ.ศ.2551 - พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ - สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ.2552 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี

พ.ศ.2553 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ.2554 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

พ.ศ.2555 - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี

พ.ศ.2556 - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - "รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน"

พ.ศ.2557 - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - "กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง"

พ.ศ.2558 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต"

พ.ศ.2559 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต"

พ.ศ.2560 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง"

พ.ศ.2561 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี"

พ.ศ.2562 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ"

พ.ศ.2563 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย"

พ.ศ.2564 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - "เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม"


ที่มา : กระปุก.คอม


webmaster - 1/1/16 at 06:54

.