ตามรอยพระพุทธบาท

ประวัติการสร้าง "สมเด็จองค์ปฐม" วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี (ตอนที่ 3)
kittinaja - 26/6/08 at 15:10

« l 1 l l 2 l 3 l 4 l »


งานพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ในพระเกตุมาลา "สมเด็จองค์ปฐม"





งานนี้เป็นงานทำบุญประจำปีที่หลวงพ่อเคยจัดมา ถึงแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วก็ตาม ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เจ้าอาวาสองค์ใหม่ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ภายในวัดท่าซุง และญาติโยมพุทธบริษัท ได้ร่วมกันจัดงานเหมือนสมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ โดยอาราธนาสมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ และพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จำนวน ๖๔ รูป ฉันภัตตาหารเพลที่ศาลา ๒ ไร่

วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๓๖ เป็นวันเริ่มงาน ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร สำหรับญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย จะได้สรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม ( จำนวน ๒ องค์ ที่เสด็จมาเองในห้องนอนหลวงพ่อ ) ก่อนที่จะอัญเชิญไปบรรจุไว้ในพระเกตุมาลาพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม

ทางด้านวิหารสมเด็จองค์ปฐม ก็มีการจัดเตรียมสถานที่เช่นกัน โดยประดับธงและผูกผ้า และกางเต๊นท์ไว้ข้างๆ วิหาร เพื่อญาติโยมทั้งหลาย ได้นั่งชมพิธีอยู่ด้านล่างทางโทรทัศน์วงจรปิด ส่วนชั้นล่างและชั้นบนของวิหาร ได้ทำความสะอาดอย่างรีบด่วน เพราะช่างเพิ่งจะทำองค์พระเสร็จ ส่วนช่างไฟก็เพิ่งจะเสร็จเหมือนกัน เมื่อจัดโต๊ะหมู่เรียบร้อยแล้ว ก็เปิดไฟทั้งหมดภายในวิหาร




ปรากฏว่าภาพที่ประจักษ์ต่อสายตาของบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทขณะนั้นแล้ว ต่างก็ร้องชื่นชมด้วยความปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง สมกับเวลาที่รอคอยมานานแล้ว บางท่านที่เพิ่งเดินทางมาถึง เมื่อก้าวขึ้นไปพบบ้าง ก็ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าสร้างได้วิจิตรประการตายิ่ง บางคนคงจะเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ชื่นชม พร้อมกับหลวงพ่อของเรา เหมือนกับที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๓๖ หลังจากฉันภัตตาหารและถวายเครื่องไทยทาน พระสงฆ์ให้พร เป็นเสร็จพิธี ที่ศาลา ๒ ไร่ แล้ว เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยาเดินทางไปที่วิหาร ๑๐๐ เมตร

หลังจากญาติโยมได้สรงน้ำพระบรมธาตุกันแล้ว เมื่อได้เวลาอันสมควร (เดิมจะเริ่มพิธีเวลา ๑๔.๐๐ น แต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ มีกิจนิมนต์ที่ จ.นครปฐม จำเป็นจะต้องเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม จึงต้องขออภัยญาติโยมในวันนั้นด้วย)

ในเวลา ๑๒.๑๕ น ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม เพื่ออาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ บรรจุไว้ในผอบทองคำในขณะทำพิธีบรรจุนั้น พระสงฆ์จำนวน ๙ รูป สวดชยันโต








เมื่อบรรจุในผอบทองคำแล้ว จึงนำไปวางไว้ในเจดีย์แก้วอีกชั้นหนึ่ง เสร็จแล้วท่านเจ้าอาวาสพร้อมด้วยพระสงฆ์ และท่านสาธุชนทั้งหลาย ได้ร่วมขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุไปยังวิหารสมเด็จองค์ปฐม โดยมีวงโยธวาทิต โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา นำขบวน




เวลา ๑๒.๔๐ น ขบวนแห่ไปถึงแล้ว พระสงฆ์ก็ขึ้นไปนั่งข้างในด้านซ้ายมือของวิหาร ส่วนญาติโยมนั่งอยู่ด้านตรงข้ามและนั่งรอกันแน่นวิหาร ก่อนที่ขบวนแห่จะมาถึงด้วยซ้ำไป ท่านที่มาภายหลัง จึงต้องไปนั่งอยู่ภายในเต็นท์ข้างวิหาร

เวลา ๑๒.๔๕ น เจ้าประคุณสมเด็จฯ เดินทางมาถึงวิหารสมเด็จองค์ปฐม ท่านเจ้าอาวาสส่งเทียนชนวนให้เจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดธูปเทียนบูชาที่โต๊ะหมู่บูชา เมื่อกราบนมัสการแล้ว ท่านก็มานั่งเก้าอี้รับแขกที่จัดไว้ แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า

“ พระองค์นี้มีลาภมากนะ ” และท่านกล่าวชมอีกว่า

“ สร้างได้สวยงามมาก เสียดายที่จะต้องรีบไป อยากจะอยู่นาน ๆ กว่านี้อีก ต่อไปคงจะมีโอกาสได้มาชมอีก ”

หลังจากนั้น พระชัยวัฒน์ อชิโต ได้อัญเชิญพระเกตุมาลาของพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพานทอง อันวางรอไว้อยู่ที่บนชั้นสูงสุดของโต๊ะหมู่บูชา



เมื่อมาถึงแล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์กราบอาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ อัญเชิญผอบทองคำที่บรรจุพระบรมธาตุของสมเด็จองค์ปฐมจำนวน ๒ องค์ บรรจุไว้ในผอบทองเหลืองก่อน แล้วจึงนำไปใส่ไว้ในพระเกตุมาลานั้น พระสงฆ์ ๙ รูป สวดชยันโต




เสร็จแล้วท่านพระครูปลัดอนันต์ กราบอาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ ขึ้นไปสวมไว้บนพระเศียร ท่านแหงนดูบันไดที่เตรียมไว้ด้านหน้าองค์พระนั้นแล้ว ท่านบอกขึ้นไม่ไหว จึงมีบัญชาให้ท่านเจ้าอาวาสนำขึ้นไปแทน โดยท่านยกมือทั้งสองขึ้นพนมอธิษฐานเสียก่อน







ในระหว่างเดินขึ้นไปบนบันไดนั้น พระชัยวัฒน์เป็นผู้อัญเชิญพานทองพระเกตุมาลา เพื่อให้ท่านพระครูปลัดอนันต์ ได้ทำพิธีสวมไว้บนพระเศียร ขณะขึ้นไปสวมนั้น พระสงฆ์ สวดชยันโต เป็นเสร็จพิธี

เมื่อใกล้เวลา ๑๓.๐๐ น อันเป็นเวลาที่ท่านจะต้องเดินทางกลับ พระสงฆ์วัดท่าซุงได้เข้ามากราบนมัสการเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ให้โอวาทสั้น ๆ ว่าขอให้ช่วยกันดูแลรักษาสมบัติของพระศาสนาไว้ให้ดีให้มีความสามัคคีต่อกัน ไว้ดังนี้

พวกเราได้ฟังในขณะนั้นแล้ว แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ปลื้มใจที่พระผู้ใหญ่ให้ความเมตตาปรานี ท่านมีความห่วงใยต่อวัดของเราจริงๆ ถึงกับพลั้งปากออกไปเบา ๆ ว่า พวกเราจะพยายามช่วยกันรักษาไว้ด้วยชีวิต เลยครับ... !

ก่อนจะกลับท่านก็บอกว่า ผมขอไปกราบพ่อก่อน แล้วท่านได้เข้าไปกราบยังหน้าโต๊ะหมู่บูชานั้น ในระหว่างที่ท่านเดินลงจากวิหาร บรรดาลูกหลานหลวงพ่อทั้งหลาย ต่างก็ถวายปัจจัยใส่ย่าม ตามธรรมเนียมที่เคยประพฤติมา จนกระทั่งท่านเดินไปถึงรถก็ยังทำบุญกันไม่ขาดสาย แล้วท่านได้มอบปัจจัยทั้งหมดให้เจ้าอาวาส เพื่อไว้ใช้จ่ายในงานนี้ต่อไป

หลังจากเจ้าประคุณสมเด็จฯ กลับแล้ว ญาติโยมพุทธบริษัท และลูกหลานของหลวงพ่อ ต่างก็ทยอยขึ้นไปทำบุญและถวายเครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน ของมีค่าต่างๆ มากมาย โดยบรรจุไว้ในแท่นที่ประทับสมเด็จองค์ปฐม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ไว้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาต่อไป

ทั้งนี้ เพราะทุกคนมุ่งหวังอานิสงส์ใหญ่ คือ การไม่กลับมาเกิดอีกต่อไป ตามสิทธิ์ที่จะได้ใน "บัญชีทอง" และได ้ทราบว่าพระศรีอาริย์ เคยมาบอกกับหลวงพ่อว่า

“ คนของท่านเหลือไปถึงสมัยผม ..ไม่ถึง ๑๐ คนหรอก.. ! ส่วนที่ยังไปไม่ได้นั้น เพราะยังชอบเมาอยู่ ”

ฉะนั้น พวกที่ไม่ชอบเมาคงจะสบายใจได้ จึงขอให้สมความปรารถนาทุกๆ ท่านเทอญ... ขอเจริญพร !

ก่อนจะจบขอย้ำเตือนความทรงจำของท่านทั้งหลายที่ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมพร้อมด้วยวิหารแก้วแห่งนี้ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวาระทรงมี พระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ณ วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๕

************************






งานพิธียกยอดฉัตร ณ วิหารสมเด็จองค์ปฐม

เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๓๖


งานนี้ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ก่อนวันงาน ประมาณสักสองสามวัน ในบริเวณด้านในกำแพง วิหารสมเด็จองค์ปฐม โดยกางเต้นท์ไว้เป็นปะรำพิธี ในตอนนี้ คุณอภิชาต สุขุม ได้นำคณะมาร่วมจัดทำกระเช้าดอกไม้ภายในวิหาร เพื่ออัญเชิญยอดฉัตรขึ้นไปบนวิหาร



สำหรับ "ยอดฉัตร" คุณอภิชาต สุขุม ได้รับหน้าเป็นที่จัดทำ โดยมี คุณไพฑูรย์ - คุณสมศรี ตั้งศิริพร
และ คุณไพรัช - คุณเบญจวรรณ ตั้งศิริพร ร่วมเป็นเจ้าภาพ









เมื่อถึงเวลาทำพิธีบวงสรวง ท่านพระครูปลัดอนันต์ และ พระชัยวัฒน์ เป็นผู้จุดธูปเทียนที่โต๊ะบายศรี ท่ามกลางความยินดีแก่ผู้ร่วมงานพิธีกันอย่างคับคั่บ เต็มลานพระวิหารทีเดียว





ครั้นเมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ บวงสรวงจบแล้ว ถึงเวลาอันสำคัญที่จะได้อัญเชิญยอดฉัตรขึ้นไปประดิษฐาน สมเจตนาที่ครูบาอาจารย์ได้มีไว้ก่อนที่จะมรณภาพ พวกเราเหล่าพุทธบริษัทที่เป็นลูกหลาน ต่างก็ได้ทำตามปนิธานของท่านไว้ด้วยดีทุกประการ นับว่าทุกคนได้แสวงตน เพื่อมุ่งหวังมรรคผลนิพพานกันอย่างแท้จริง









หลังจากเสร็จพิธีการแล้ว เจ้าภาพคือ คุณไพฑูรย์ - คุณสมศรี ตั้งศิริพร ได้ถวายไทยทาน เมื่อพระสงฆ์ให้พร จึงเป็นอันเสร็จพิธี



เป็นอันว่า ประวัติการดำเนินการสร้าง "สมเด็จองค์ปฐม" ได้นำมาบรรยายไว้ครบถ้วน เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้รับทราบประวัติอย่างแท้จริง เพราะในปัจจุบันนี้ ได้มีการสร้าง "สมเด็จองค์ปฐม" มีลักษณะที่แตกต่างจากวัดท่าซุงกันมากมาย

บางรายได้มีการแจกใบปลิว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันไปหลายรายแล้ว ซึ่งทางวัดมิได้เกี่ยวข้องด้วย จึงขอให้ผู้มีศรัทธาทั้งหลาย โปรดตรอจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะว่าเวลานี้ "สมเด็จองค์ปฐม" ได้มีชื่อเสียงสมกับคำที่ "สมเด็จปู่วัดสามพระยา" พูดไว้ทุกประการ ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาไว้ด้วยดี สมกับที่มีความเคารพพระองค์ท่านอย่างแท้จริง



ครั้นต่อมาภายหลัง ประมาณปี 2537 ท่านพระครูปลัดอนันต์ พร้อมด้วยพระสงฆ์วัดท่าซุง และคณะศิษย์ฯ ได้มีการจัดงานพิธีหล่อ "สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน" เพื่อนำไปประดิษฐานชั้นบนพระวิหาร ตามคำบัญชาของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ครบถ้วนทุกประการ จึงขออนุโมทนาท่านผู้ร่วมสร้างทั้งหลาย ที่ได้ช่วยกันทำตามปนิธานของท่านไว้ เพื่อช่วยกันคำจุนสถานที่แห่งนี้ ให้ดำรงอยู่ตราบเท่าอายุพระพุทธศาสนาต่อไป

************************


« l 1 l l 2 l 3 l 4 l »